พระผง จตุคามรามเทพ หลวงพ่อเอื้อม วัดบางเนียน จ.นครศรีธรรมราช รุ่นแรก รุ่นอิทธิบุญฤทธิ์ เนื้อว่านพิเศษไม้มหามงคลปิดทองรองพิมพ์ ปี ๒๕๕๐

พระผง จตุคามรามเทพ หลวงพ่อเอื้อม วัดบางเนียน จ.นครศรีธรรมราช

รุ่นแรก รุ่นอิทธิบุญฤทธิ์ เนื้อว่านพิเศษไม้มหามงคลปิดทองรองพิมพ์  ปี ๒๕๕๐

รหัสสินค้า – B67 00003

หมายเหตุ : ภาพที่ลงโชว์ไว้เป็นภาพตัวอย่างถ่ายจากองค์จริง ซึ่งมีการปรับแต่งแสงเพื่อความสวยงามเพียงเล็กน้อย หากอยากชมภาพองค์จริง กรุณา แอดไลน์ (Line) : tik_suratin ทางร้านจะส่งภาพองค์จริงชมก่อนตัดสินใจ หรือ โทร.สอบถามรายละเอียดวัตถุมงคลที่จะสั่งบูชาก่อนได้ ที่เบอร์ 097-236-5353

รับประกันแท้ 100% ตามหลักสากล

เงื่อนไขการจัดส่ง

-       ราคาเช่าบูชาไม่เกิน 500 บาท ส่งแบบลงทะเบียน หากต้องการให้ส่งแบบ EMS เพิ่มอีก 50

-       ระยะการจัดของไปรษณีย์แบบ EMS ประมาณ 1-2 วันขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการจัดส่ง

-       ระยะการจัดของไปรษณีย์แบบลงทะเบียน ประมาณ 3-5 วันขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการจัดส่ง

ทางร้านยินดีให้บริการ และ ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้ไว้วางใจทางร้านที่เป็นอย่างดีตลอดมา

ท้าวเทวราชโพธิสัตว์จตุคามรามเทพ รุ่น อิทธิบุญฤทธิ์ รุ่นแรกพ่อท่านเอื้อม

พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ วัดบางเนียน ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช

พิธีเททอง ณ วัดบางเนียน วันจันทร์ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ โดยพ่อท่านเอื้อม และ เกจิอาจารย์สายเขาอ้อ อาจารย์ประจวบ คงเหลือ เป็นประธานพิธีบวงสรวง ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช

พิธีเทวาภิเษก ณ วัดบางเนียน วันเสาร์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๐

พิธีบวงสรวงและปลุกเสก ณ วิหารหลวงวัดมหาธาตุวรมหาวิหารนครศรีธรรมราช วันอังคารที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๐

รายได้สมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ และพัฒนาบำรุงวัดบางเนียน

พ่อท่านเอื้อม กตฺปุญโญ

ประวัติสังเขป (ข้อความจากหนังสือมงคลข่าวสด สุดยอดพระเกจิ ปี ๒๕๕๐ )

พ่อท่านเอื้อม กตฺปุญโญ เกจิเอก “จตุคาม ฯ” อายุ ๑๐๑ ปี

วัดสุวรรณจัตตุพลปันนาราม(วัดบางเนียน) ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

ในจำนวนพระเกจิสายใต้ หลายคนต้องนึกถึง “พ่อท่านเอื้อม” สงฆ์ที่มีสังขารยืนยาวมากกว่า ศตวรรษ

“๑ ศตวรรษ ๕ แผ่นดิน” พ่อท่านเอื้อม กตฺปุญโญ พระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์ ทองทั้งแท่ง เพชรแท้ แห่งลุ่มน้ำปากพนัง เจ้าอาวาสวัดสุวรรณจัตตุพลปันนาราม (บางเนียน) ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช

จะว่าไปแล้วพระเกจิอาจารย์อายุเกิน ๑๐๐ ปี นับวันจะเหลือน้อยลงทุกที แต่สำหรับสายใต้ “พ่อท่านเอื้อม” กำลังโด่งดัง มีนามคุ้นหูเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสมวัตถุมงคล

“พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ” ปัจจุบันมักได้รับนิมนต์ไปนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก และกดพิมพ์นำฤกษ์วัตถุมงคลยอดนิยม “จตุคามรามเทพ” อยู่บ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะอยู่แถวภาคใต้ เพราะติดปัญหาเรื่องการเดินทาง

ความชราไม่เป็นปัญหากับหลวงพ่อเอื้อม ด้วยความเมตตาที่เปี่ยมล้น อยากให้คณะศรัทธามีวัตถุมงคลมากพุทธคุณไว้บูชา วัดใกล้หรือไกลหากจัดพิธีพุทธาภิเษก-เทวาภิเษกวัตถุมงคลแล้วทำใบฎีกานิมนต์มา ท่านไม่เคยปฏิเสธ จนบางครั้งศิษย์ของท่านเองต้องขอร้อง เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ

ชาติภูมิ ถือกำเนิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๙ เป็นบุตรของโยมบิดา นายเขียน แสงสุวรรณ โยมมารดา นางนุ่ม แสงสุวรรณ ณ บ้านเลขที่ ๖๘ หมู่ ๑๒ ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช ปีระกา วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๔๔๙ นับถึงปัจจุบัน ๒๕๕๐ สิริอายุรวม ๑๐๑ ปี

การศึกษา ได้รับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนใกล้บ้านแล้วประกอบอาชีพทำนาช่วยเหลือครอบครัว

อุปสมบท เมื่ออายุได้ ๖๕ ปี วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๑๔ เวลา ๑๓.๔๕ น. ณ พัทธสีมาวัดปากเชียร อำเภอเชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช โดยมีพระครู ถาวรบุญรัตน์เป็นพระอุปัชฌา พระมานิต มานิโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า “กตฺปุญโญ”

ตามประวัติก่อนอุปสมบทท่านเคยเป็นเสือมาก่อนและได้เคยปะทะกับท่าน พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เล่ากันต่อมาว่า ถูกท่านขุนพันธ์ยิงด้วยปืน ร่างพรุนเป็นรอยจ้ำเต็มไปหมดเพราะกระสุนไม่ระคายผิวหนัง เพราะ ต่างคนต่างมีวิชาสายสำนักเขาอ้อเหมือนกันจนในที่สุดท่านทั้งสองคบหาเป็นสหายกัน

ต่อมาท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้แนะนำให้ท่านไปบวชกับ พ่อท่านคล้าย วัดจันดี

แต่พ่อท่านคล้ายชราภาพมากแล้วจึงแนะนำให้ไปบวชกับพระรูปอื่น ก่อนบวชท่านได้บอกว่าถ้าบวชกับพระรูปไหนก็จะไปสึกกับพระรูปนั้น ในที่สุดท่านก็ได้อุปสมบทกับ พระครูถาวรบุญรัตน์ในเวลาต่อมาท่านพระครูถาวรบุญรัตน์ได้มรณะภาพลง พ่อท่านเอื้อมจึงลาสิกขาบทไม่ได้ ตั้งแต่นั้นมาจวบจนปัจจุบัน

การศึกษาพุทธาคม หลังจากอุปสมบทแล้วอยู่จำพรรษาวัดปากเชียรศึกษาข้อวัตรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจากนั้นได้จาริกธุดงค์ตามป่าเขาขึ้นเหนือถึงประจวบคีรีขันธ์ ลงใต้สำนักอาจารย์เขาอ้อ ไปสุดชายแดนมาเลเซีย

ในระหว่างธุดงค์ ได้สร้างวัดตามสถานที่ต่างๆ รวมได้ ๗ วัด ได้แก่ วัดท้ายทะเล อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช วัดเนินธัมมัง อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช วัดไสไท อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ สำนักสงฆ์สะเดา อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร สำนักสงฆ์เขาวงแหวน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง สำนักสงฆ์ควนเขาดิน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฏร์ธานี และ วัดบางเนียน อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช

“พ่อท่านเอื้อม” ศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างมุ่งมั่นและจริงจัง ระหว่างธุดงค์ปักกลดตามป่า ถ้ำ และเดินข้ามภูเขาน้อยใหญ่รวม ๖๙ ลูก การปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดของพ่อท่านเอื้อม จึงเชื่อกันว่าพ่อท่านอื้อมได้บรรลุธรรมชั้นสูง

นอกจากศึกษาค้นคว้าและปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดแล้ว พ่อท่านเอื้อมยังได้ศึกษาค้นคว้าทางไสยเวท และวิทยาคม ทั้งศาสตร์อิสลาม พราหมณ์ ขอม และ พุทธมาตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี จนถึงปัจจุบัน ทำให้พ่อท่านเอื้อม มีความรู้แตกฉานแกร่งกล้าทางด้านไสยศาสตร์ เวทมนตร์ คาถาอาคม

ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์เพชรน้ำหนึ่งของภาคใต้ มีตบะบารมีสูง วัตถุมงคลที่พ่อท่านเอื้อมอธิษฐานจิต หรือปลุกเสกจะมีความพิเศษศิษยานุศิษย์ ผู้ศรัทธาและบุคคลทั่วไปจึงเสาะแสวงหาไว้บูชา และไปคารวะกราบไหว้พ่อท่านเอื้อม กันมากมายตลอดเวลา

กิตติคุณเป็นที่เล่าขานเรื่องเมตตา มหานิยม คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย วัตถุมงคลเข้มขลัง มากประสบการณ์ เช่น เหรียญรุ่นแรก พ.ศ. ๒๕๓๓ อายุ ๘๒ ปี ตะกรุด ผ้ายันต์ พระผง รูปหล่อบูชา

เหรียญพ่อท่านเอื้อม เนื้อสัตตะโลหะ "รุ่นกองทุนพ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ" จัดสร้างเนื่องในโอกาสที่พ่อท่านเอื้อม มีอายุ ๑๐๐ ปี คณะศิษย์และผู้ศรัทธาพ่อท่าน ได้ร่วมกันสร้างรูปเหมือนเท่าองค์จริง ๒ องค์ ประดิษฐานไว้ที่วัดบางเนียน อ.เชียรใหญ่ และที่ร.ร.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.นครศรีธรรมราช

ปัจจุบัน "พ่อท่านเอื้อม" ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิเอกอุด้านจตุคามรามเทพรูปหนึ่ง

โดยท่านได้สร้างจตุคามฯ รุ่นแรก เป็นจตุคามฯ รุ่น อิทธิบุญฤทธิ์ หลากหลายเนื้อ ร่วมกับพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ บวงสรวง ณ ศาลหลักเมือง และวัดพระมหาธาตุฯ มีวัตถุประสงค์ โดยนำรายได้จากการจำหน่ายวัตถุมงคลมาสมทบทุนสร้าง ศาลาการเปรียญหลังใหม่ และพัฒนาบำรุงวัดบางเนียน มีอาจารย์ประจวบ คงเหลือ เป็นประธานพิธีบวงสรวง

นับได้ว่า พ่อท่านเอื้อม เป็นพระเกจิอาจารย์สืบทอดพุทธาคมสายสำนักเขาอ้อที่โด่งดัง มากด้วยครูอาจารย์ บริสุทธิ์ด้วยปฏิปทาศีลาจารวัตร เปี่ยมด้วยเมตตาบารมีธรรม

สมดังสมัญญานาม "เพชรแท้แห่งลุ่มน้ำปากพนัง"