รหัสสินค้า | B64 00036 |
หมวดหมู่ | กรุงเทพมหานคร |
ราคา | 450.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
จำนวน | ชิ้น |
เหรียญ เข็มกลัด พระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธ เนื้อกะไหล่ทองลงยา ปี ๒๕๑๘รหัสสินค้า – B64 00036
หมายเหตุ : ภาพที่ลงโชว์ไว้เป็นภาพตัวอย่างถ่ายจากองค์จริง ซึ่งมีการปรับแต่งแสงเพื่อความสวยงามเพียงเล็กน้อย หากอยากชมภาพองค์จริง กรุณา แอดไลน์ (Line) : tik_suratin ทางร้านจะส่งภาพองค์จริงชมก่อนตัดสินใจ หรือ โทร.สอบถามรายละเอียดวัตถุมงคลที่จะสั่งบูชาก่อนได้ ที่เบอร์ 097-236-5353
รับประกันแท้ 100% ตามหลักสากล
เงื่อนไขการจัดส่ง
ราคาเช่าบูชาไม่เกิน 500 บาท ส่งแบบลงทะเบียน หากต้องการให้ส่งแบบ EMS เพิ่มอีก 50
ระยะการจัดของไปรษณีย์แบบลงทะเบียน ประมาณ 3-5 วันขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการจัดส่ง
ราคาเช่าบูชาเกิน 500 บาทขึ้น ส่งแบบ EMS
ระยะการจัดของไปรษณีย์แบบ EMS ประมาณ 1-2 วันขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการจัดส่ง
ทางร้านยินดีให้บริการ และ ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้ไว้วางใจทางร้านที่เป็นอย่างดีตลอดมา
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสน์ วาสโน)[1] เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 18 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. 2517 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงอยู่ในตำแหน่ง 14 พรรษา สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2531 พระชนมายุ 91 พรรษา
ประสูติ[แก้]
พระองค์มีพระนามเดิมว่ามัทรี นิลประภา ภายหลังเปลี่ยนพระนามเป็น วาสน์ ประสูติเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2440 ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทรงบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ. 2455
บรรพชาและอุปสมบท[แก้]
พระองค์ได้บรรพชา ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เมื่อปี พ.ศ. 2455 พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าเมื่อดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นเป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2461 โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "วาสโน" เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาพระปริยัติธรรมตามลำดับและสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
ลำดับสมณศักดิ์[แก้]
พ.ศ. 2465 และ 2466 เป็นพระครูโฆสิตสุทธสร พระครูธรรมธร และพระครูวิจิตรธรรมคุณ ตามลำดับ พระครูฐานานุกรมในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัตน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า และเป็นกรรมการตรวจธรรมและบาลีสนามหลวง
พ.ศ. 2477 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ "พระจุลคณิศร" พระราชาคณะปลัดซ้ายของพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
พ.ศ. 2481 เป็นกรรมการคณะธรรมยุต
พ.ศ. 2485 เป็นกรรมการมหามงกุฎราชวิทยาลัย เป็นคณาจารย์เอกทางรจนาพระคัมภีร์ และเป็นสมาชิกสภาสังฆสภา
พ.ศ. 2486 เป็นผู้ช่วยเจ้าคณะตรวจการภาคกลาง และภาค 2 เป็นเจ้าคณะอำเภอพระนคร และเป็นกรรมการการสังคายนาพระธรรมวินัย
พ.ศ. 2489 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ "พระราชกวี" และรักษาการณ์ในหน้าที่เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ
พ.ศ. 2490 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ "พระเทพโมลี"
พ.ศ. 2491 เป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และเป็นเจ้าคณะตรวจการณ์ภาค 1
พ.ศ. 2492 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ "พระธรรมปาโมกข์"
พ.ศ. 2494 เป็นเจ้าคณะธรรมยุต ผู้ช่วยภาค 1-2-6 และเป็นเจ้าคณะจังหวัด พระนคร-สมุทรปราการ และนครสวรรค์
พ.ศ. 2500 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ที่ "พระอุบาลีคุณูปมาจารย์"
พ.ศ. 2504 เป็นผู้รักษาการณ์ในตำแหน่งเจ้าคณะธรรมยุต ภาค 1-2-6 และเป็นอุปนายกกรรมการมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ
พ.ศ. 2506 เป็นสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏที่ "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" และเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
งานพระศาสนา[แก้]
พระองค์ได้บริหารงานพระศาสนา ในการคณะสงฆ์มาโดยตลอดเป็นอันมาก พอประมวลได้ดังนี้
นายกกรรมการและนายกสภาการศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุติกนิกาย
ประธานการศึกษาของคณะสงฆ์
ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม
ประธารกรรมการมูลนิธิส่งเสริมกิจการศาสนา และมนุษยธรรม
เป็นองค์อุปถัมภ์ในกิจการด้านการพระศาสนา และการสงเคราะห์ในด้านต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เช่น มูลนิธิสังฆประชานุเคราะห์ สัมมาชีวศิลปมูลนิธิ ศูนย์และชมรมพุทธศาสนาในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถร) สถานสงเคราะห์คนชราวาสนเวศน์ และมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถร) เป็นต้น
งานเผยแผ่ศาสนธรรม[แก้]
งานเผยแผ่ศาสนธรรม นับว่าเป็นงานหลักที่ทรงกระทำเป็นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบต่าง ๆ กล่าวคือ การสังคายนาพระธรรมวินัย ตรวจชำระพระไตรปิฎก ในการสมัยสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี นับเป็นครั้งที่ 3 ของประเทศไทย
การบรรยายธรรม ได้จัดให้มีพระธรรมเทศนาประจำวันธรรมสวนะในพระอุโบสถเป็นประจำ การบรรยายสวดมนต์มีคำนำแปล ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ประจำวันพระแรม 8 ค่ำ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 ถึง พ.ศ. 2517
การตรวจเยี่ยมพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศทั้ง 73 จังหวัด เพื่อรับทราบปัญหาต่าง ๆ ที่จะได้นำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป
การแต่งหนังสือและบทความต่าง ๆ เพื่อสอนพระพุทธศาสนาในระดับต่าง ๆ ไว้เป็นจำนวนมาก
งานสาธารณูปการ[แก้]
งานสาธารณูปการ การตั้งมูลนิธิต่างๆ เพื่อบำรุงพระอาราม
ทรงสร้างและให้ความอุปถัมภ์ในการสร้างวัด โรงเรียน โรงพยาบาล และสาธารณสถานต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เช่น วัดแสงธรรมสุทธาราม จังหวัดนครสวรรค์ วัดโพธิทอง จังหวัดอยุธยา อาคารเรียนโรงเรียนประชาบาลวัดสระกะเทียม นครปฐม โรงเรียนประชาบาลวัดโพธิ์ทอง จังหวัดอยุธยา โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) จังหวัดอยุธยา ศาลาบำเพ็ญบุญ วัดเสนาสนาราม หอนาฬิกา จังหวัดอยุธยา ศาลาที่พักริมทางหลวง 8 แห่ง ศาลาทรงไทยหน้าพระวิหารพระมงคลบพิตร 2 หลัง และสถานสงเคราะห์คนชราวาสนเวศน์ จังหวัดอยุธยา สิ่งก่อสร้างสุดท้ายคือ โรงเรียนวัดราชบพิธแห่งใหม่ ในที่ดินที่กองทัพบกยกให้ เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 90 พรรษา งานสร้างพุทธมณฑล ให้สำเร็จเสร็จทันในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2530 เป็นผลงานสำคัญของพระองค์ที่เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521
งานพระนิพนธ์[แก้]
งานพระนิพนธ์ ทรงนิพนธ์หนังสือและบทความต่าง ๆ ทั้ง ร้อยแก้ว และร้อยกรองไว้เป็นจำนวนมาก เช่น ทิศ 6 สังคหวัตถุ 4 สัมปรายิกัตถประโยชน์ วัดของบ้าน พุทธศาสนคุณ พัฒนาใจ บุคคลหาได้ยาก มรดกชีวิต ความเติบโต วาสนาสอนน้อง จดหมายถึงพ่อ วาทแห่งวาสน์ คำกลอนสอนใจ วาสนคติ นิราศ 2 ปี สวนดอกสร้อย สักวาปฏิทิน กลอนปฏิทิน อาจารย์ดี สมพรปาก คน-ระฆัง เรือ-สมาคม วัยที่เขาหมดสงสาร และบทความเรื่องบันทึกศุภาสินี เป็นต้น
หน้าที่เข้าชม | 1,114,157 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 900,002 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 ก.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |