รหัสสินค้า | B67 00049 |
หมวดหมู่ | พระเนื้อเงิน |
ราคา | 1,450.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
จำนวน | องค์ |
เหรียญ หลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมมามูลวรวิหาร จ.ชัยนาท เนื้อเงิน ปี ๒๕๖๒
หมายเหตุ : ภาพที่ลงโชว์ไว้เป็นภาพตัวอย่างถ่ายจากองค์จริง ซึ่งมีการปรับแต่งแสงเพื่อความสวยงามเพียงเล็กน้อย หากอยากชมภาพองค์จริง กรุณา แอดไลน์ (Line) : tik_suratin ทางร้านจะส่งภาพองค์จริงชมก่อนตัดสินใจ หรือ โทร.สอบถามรายละเอียดวัตถุมงคลที่จะสั่งบูชาก่อนได้ ที่เบอร์ 097-236-5353
รับประกันแท้ 100% ตามหลักสากล
เงื่อนไขการจัดส่ง
- ราคาเช่าบูชาไม่เกิน 500 บาท ส่งแบบลงทะเบียน หากต้องการให้ส่งแบบ EMS เพิ่มอีก 50
- ระยะการจัดของไปรษณีย์แบบ EMS ประมาณ 1-2 วันขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการจัดส่ง
- ระยะการจัดของไปรษณีย์แบบลงทะเบียน ประมาณ 3-5 วันขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการจัดส่ง
ทางร้านยินดีให้บริการ และ ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้ไว้วางใจทางร้านที่เป็นอย่างดีตลอดมา
หลวงพ่อธรรมจักร
พระประธานในพระวิหารเชิงเขา วัดธรรมามูลวรวิหารเชิงเขาธรรมามูล ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท
“หลวงพ่อธรรมจักร” เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชัยนาท ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารเชิงเขา วัดธรรมามูลวรวิหาร ต.ธรรมมูล อ.เมือง จ.ชัยนาท เป็นศิลปะประยุกต์ช่างสมัยเชียงแสนตอนปลายถึงสุโขทัยตอนต้นผสมกับสมัยอยุธยา มีพุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ประทับยืนบนฐานดอกบัว พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ สูงประมาณ 4.50 เมตร กลางฝ่าพระหัตถ์มีรอย “ธรรมจักร” ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพระพุทธรูปองค์นี้
ประวัติ “หลวงพ่อธรรมจักร” วัดธรรมามูลวรวิหาร ไม่พบหลักฐานทางประวัติอย่างแน่ชัด มีเพียงตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาว่า มีผู้พบพระพุทธรูปลอยตามแม่น้ำเจ้าพระยามาพร้อมกันถึง 3 องค์ ได้แก่ หลวงพ่อโสธร (วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา) หลวงพ่อวัดบ้านแหลม (วัดบ้านแหลมหรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จ.สมุทรสงคราม) และ หลวงพ่อธรรมจักร (วัดธรรมามูลวรวิหาร จ.ชัยนาท) บ้างกล่าวว่ามีพระพุทธรูปอีกองค์ คือ หลวงพ่อวัดไร่ขิง (วัดไร่ขิง จ.นครปฐม) ลอยตามมาด้วย แต่สำหรับ “หลวงพ่อธรรมจักร” เมื่อลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดธรรมามูลวรวิหาร ปรากฏว่าได้ลอยวนเวียนอยู่บริเวณหน้าวัดแห่งนี้
พระภิกษุและชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกันอัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่วัด โดยนำเชือกพร้อมด้ายสายสิญจน์ผูกกับพระพุทธรูป แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ กระทั่งตกเย็นจึงแยกย้ายกันกลับ โดยวางแผนจะมาดึงในวันรุ่งขึ้น
พอถึงรุ่งเช้า ชาวบ้านต่างหาพระพุทธรูปไม่พบ ต่างคิดว่าพระพุทธรูปได้หลุดลอยน้ำไปแล้ว จึงแยกย้ายกันกลับ ปรากฏว่าในขณะนั้นได้มีผู้พบเห็นพระพุทธรูปองค์ที่ลอยน้ำมานั้น ได้มาประดิษฐานปิดทางเข้าประตูพระวิหาร วัดธรรมามูลวรวิหาร เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง จึงได้เรียกชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างให้ขึ้นไปดู ชาวบ้านจึงได้ร่วมแรงร่วมใจก่อสร้างต่อเติมพระวิหารออกมาอีกช่วงหนึ่ง รวมเป็น 3 ช่วง จากคำบอกเล่า เมื่อองค์หลวงพ่อธรรมจักรประดิษฐ์อยู่ได้ 3 วัน ก็ได้หายไปจากพระวิหาร และกลับมาประดิษฐานดังเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมีโคลนและจอกแหนติดเปื้อนมาด้วย ชาวบ้านจึงได้นำโซ่มาล่ามผูกไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้องค์หลวงพ่อธรรมจักรหายไปอีก
ต่อมามีคนต่างถิ่นล่องแพมาจากทางเหนือเพื่อตามหาพระพุทธรูป เมื่อมาถึงท่าน้ำหน้าวัดธรรมามูลวรวิหาร ได้พบพระพุทธรูปที่ตามหาอยู่ ขณะนั้นเป็นช่วงพลบค่ำ ชายผู้นั้นจึงได้ขออาศัยนอนอยู่ที่วัด เพื่อรอเวลาอัญเชิญองค์หลวงพ่อธรรมจักรกลับ ณ วัดแห่งเดิม ชายคนนั้นได้ฝันว่า หลวงพ่อไม่ขอกลับไปด้วย จะขออยู่ที่วัดธรรมามูลวรวิหารแห่งนี้ ครั้นรุ่งเช้า จึงได้กราบลาท่านสมภารเดินทางกลับบ้าน และได้ขอถอดเอา “จักร” ที่กลางฝ่าพระหัตถ์องค์หลวงพ่อธรรมจักรกลับไป นับแต่นั้นมาหลวงพ่อธรรมจักรก็ไม่หายไปไหนอีก ชาวบ้านจึงได้นำโซ่ที่ล่ามออก และได้ร่วมกันสร้าง “จักร” ขึ้นใหม่ พร้อมทั้งจัดให้มีงานสมโภชต่อเนื่องทุกปีจนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้มีพุทธบริษัทเป็นจำนวนมากเดินทางมานมัสการ “หลวงพ่อธรรมจักร” ไม่ขาดระยะ
ในสมัย ร.ศ.120, 125 และ 127 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงเสด็จมาสักการะ “หลวงพ่อธรรมจักร” ถึง 3 ครั้ง ดังมีข้อความปรากฏในหนังสือประวัติศาสตร์ประพาสต้นของพระพุทธเจ้าหลวง ว่าพระองค์ได้มีพระราชหัตถเลขา ฉบับที่ 8 เดือนตุลาคม ร.ศ.120 ถึงพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ ความว่า “เวลาเช้า 3 โมงเศษ ถึงวัดธรรมามูล ขึ้นเขามีราษฎรอยู่มาก พระวิหารใหญ่หลังคาพังทลายลงทั้งแถบ จำเป็นต้องปฏิสังขรณ์ เมื่อนมัสการพระ แจกเสมาราษฎรแล้วลงเรือเดินทางต่อมาอีก”
ส่วนพระราชหัตถเลขา ฉบับลงวันที่ 9 สิงหาคม ร.ศ.125 ทรงบันทึกว่า “บ่าย 2 โมงได้ออกเรือแวะที่โรงทหาร (ที่ตั้งศาลากลางในปัจจุบัน) ขึ้นตรวจแถว กลับจากโรงทหารขึ้นมาถึงเขาธรรมามูล 4 โมงครึ่ง ข้ามไปถ่ายรูปที่หาดตรงข้ามจนเย็น จึงเข้าเรี่ยรายปฏิสังขรณ์ศาลา และพระวิหารขึ้นใหม่”
อนึ่ง ในการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมานั้น สันนิษฐานว่า สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวง ตามเสด็จมาด้วย โดยพบแผ่นจารึกหินอ่อนที่ด้านบนเสาต้นกลางของซุ้มบันไดที่ติดกับลานพระวิหารหลวงพ่อธรรมจักร จารึกเกี่ยวกับวัน เดือน ปี และบุคคลที่บริจาค โดยปรากฏเป็นพระนามแรก ทรงบริจาคเงินจำนวน 200 บาท บุคคลที่สำคัญอีกท่านหนึ่งที่ได้ตามเสด็จมานมัสการ คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยมีพระนิพนธ์ไว้ในหนังสือสาสน์สมเด็จ ลงวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2481 เป็นลายพระหัตถ์ที่ทรงมีถึงสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ความตอนหนึ่งว่า
“เมื่อปีแรก หม่อมฉันเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ใน พ.ศ.2453 ขึ้นไปตรวจราชการหัวเมืองเหนือเมื่อฤดูน้ำ ได้พระราชทานกฐินหลวงไปทอดที่วัดธรรมามูลด้วย หม่อมฉันไปพักแรมอยู่ที่ชัยนาท รุ่งเช้าออกจากเมืองชัยนาทขึ้นไปบนเขาธรรมามูล”
วัดธรรมามูลวรวิหาร มีการจัดงาน ประเพณีนมัสการปิดทองหลวงพ่อธรรมจักร อันเป็นงานประจำปี โดยทางวัดได้กำหนดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือ ในเดือน 6 ระหว่างวันขึ้น 4-8 ค่ำ และในเดือน 11 ระหว่างวันแรม 4-8 ค่ำ รวมครั้งละ 5 วัน 5 คืน ในงานมีมหรสพสมโภชตามประเพณีนิยมทั่วไป ในอดีตเมื่อมีงานประเพณีนมัสการปิดทองฯ คราวใด จะต้องมีงานแข่งเรือในลำน้ำหน้าวัดด้วย แต่ประเพณีนี้ได้ล้มเลิกไปเมื่อประมาณปี พ.ศ.2505 นอกจากนี้ทุกวันแรม 11 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ทางวัดได้จัดให้มีงาน ประเพณีตักบาตรเทโว อีกด้วย
สำหรับการเดินทางมานมัสการองค์หลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูลวรวิหารนั้น ทุกท่านสามารถใช้เส้นทางตามถนนพหลโยธินสายเก่า ชัยนาท-นครสวรรค์ เลยสี่แยกแขวงการทางชัยนาทไปประมาณ 8 กิโลเมตร จะแลเห็นเชิงเขาธรรมามูลอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายชื่อวัดแสดงอยู่ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนแล้วข้ามเขาไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรก็จะถึงวัด ให้จอดรถไว้บริเวณที่ที่วัดจัดไว้สำหรับจอดรถ โดยจะอยู่บริเวณเชิงเขา แล้วจึงเดินขึ้นบันไดไปอีกระยะหนึ่งก็จะถึง พระวิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อธรรมจักร บริเวณวัดสามารถชมวิวทิวทัศน์ด้านล่างได้ จึงนับได้ว่า วัดธรรมามูลวรวิหารแห่งนี้เป็นวัดที่สงบ ร่มเย็น สวยงามมากอีกวัดหนึ่งของ จ.ชัยนาท
หน้าที่เข้าชม | 1,113,194 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 899,039 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 ก.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |