พญาหมูพลิกแผ่นดินแสนล้าน หลวงปู่แสน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ รุ่นแรก ปี ๒๕๖๐

พญาหมูพลิกแผ่นดินแสนล้าน หลวงปู่แสน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ รุ่นแรก

เนื้อชนวน อุดผงฝังตะกรุดทองแดง ๑ ดอก หมายเลข ๑๖๑๖ ปี ๒๕๖๐

รหัสสินค้า – B66 00449

หมายเหตุ : ภาพที่ลงโชว์ไว้เป็นภาพตัวอย่างถ่ายจากองค์จริง ซึ่งมีการปรับแต่งแสงเพื่อความสวยงามเพียงเล็กน้อย หากอยากชมภาพองค์จริง กรุณา แอดไลน์ (Line) : tik_suratin ทางร้านจะส่งภาพองค์จริงชมก่อนตัดสินใจ หรือ โทร.สอบถามรายละเอียดวัตถุมงคลที่จะสั่งบูชาก่อนได้ ที่เบอร์ 097-236-5353

รับประกันแท้ 100% ตามหลักสากล

เงื่อนไขการจัดส่ง

-  ราคาเช่าบูชาไม่เกิน 500 บาท ส่งแบบลงทะเบียน หากต้องการให้ส่งแบบ EMS เพิ่มอีก 50

-  ระยะการจัดของไปรษณีย์แบบ EMS ประมาณ 1-2 วันขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการจัดส่ง

-  ระยะการจัดของไปรษณีย์แบบลงทะเบียน ประมาณ 3-5 วันขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการจัดส่ง

ทางร้านยินดีให้บริการ และ ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้ไว้วางใจทางร้านที่เป็นอย่างดีตลอดมา

พญาหมูพลิกแผ่นดินแสนล้าน ปี ๒๕๖๐ หลวงปู่แสน วัดบ้านหนองจิก ศรีสะเกษ

ประวัติวิชาหมูนารายณ์อวตาร อ้างมาจากตำนานนารายณ์อวตาร เมื่อคราวหิรัญยักษ์ผู้ได้พรวิเศษจากพระผู้เป็นเจ้า คิดการใหญ่หมายจะครอบครองโลก ได้ทำการม้วนผืนแผ่นดินแล้วหนีบไว้ที่รักแร้ ทำให้สรรพสัตว์โลก เดือดร้อนเป็นอันมาก ร้อนถึงองค์นารายณ์ จึงอวตารมาเป็น พญาวราหะ(หมูเผือก) ลงมาสู้กับหิรัญยักษ์ หิรัญยักษ์พลาดท่าถูกพญาวราหะ ขวิดคอขาดสิ้นใจตาย พญาวราหะ จึงเอาเขี้ยวขวิดแผ่นดินกลับคืนดังเดิม ยังความสงบสุขกลับคืนสู่โลกอีกครั้ง......

            พระเกจิบูรพาจารย์ จึงนำเอาคุณวิเศษของพญาวราหะ มาผูกเป็นยันต์อันมีอิทธิฤทธิ์  อิทธิคุณด้านสงบร่มเย็นเป็นสุข ปราบปรามอาถรรพ์ต่างๆ ที่เป็นคู้แข่งหรืออุปสรรค์พญาวรากะย่อมปราบปรามให้แพ้ไปสิ้น และหนุนดวงชะตาของคนที่มียันต์หรือรอยสักหรือรูปพญาวราหะนั้นๆมิให้ตกต่ำ เสมือนว่าชะตาจะตกต่ำ พญาวราหะจะพลิกดวงชะตาให้ดีขึ้นไม่ให้ตกต่ำได้เลย และยังมีอิทธิคุณในด้านมหาลาภ ทำมาค้าขาย หากินเก่ง เพราะหมูนั่นมีรูปร่าง อ้วนถ้วนสมบูรณ์ หากินเก่ง หากินคล่อง ไม่ปล่อยให้ตัวเอง อดยากและไม่เคยปรากฎว่าหมูนี้จะอดอยากซักที นี่แค่หมูธรรมดานะ

            แต่นี่พญาวราหะเป็นพญาหมู จะดีเด่นขนาดไหนคิดดูเอา ครูบาอาจารย์จึงเอาอิทธิคุณนี้มาลงไว้ใน รูปหล่อหรือรอยสักนั้นๆ และอีกประการสุดท้าย คือเรื่องแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีนี้ไม่ต้องพูดถึง พญาวราหะนี้คือพญาหมูเผือก มีฤทธิ์มาก ธรรมดาหมูป่านี้มีคุณอยู่แล้วคือ มีเขี้ยวตัน คงกระพันชาตรี และช้องหมูป่า คือขนหางหรือขนตามตัวที่หมูนั้นกัดหรือดึงไว้ในปาก เป็นเครื่องรางที่พรานป่าแสวงหามาติดตัว พญาวราหะจึงมีดีที่คงกระพันมหาอุดอีกด้วย

พระเกจิดังทางภาคอีสาน สมญา ‘เทพเจ้าแห่งเขาภูฝ้าย ใกล้ชายแดนเขมร’ นาม “หลวงปู่แสน ปสนฺโน” แห่งวัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ พระนักปฏิบัติผู้ถือสมถะ ชอบช่วยเหลือเกื้อกูลผู้คน บูรณะและพัฒนาศาสนสถานต่างๆ มาโดยตลอด เป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชนชาวอีสานและใกล้เคียง

หลวงปู่แสน เดิมชื่อ แสน เป็นคนบ้านโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ขุขันธ์  ( ปัจจุบันคือ ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ย.2450

ตอนเด็กพำนักอยู่ที่วัดบ้านโพรง ซึ่งพระพี่ชายเป็นเจ้าอาวาส และได้บวชเณรในวัดนี้ ระหว่างบวชมีโอกาสไปศึกษาเล่าเรียนกับหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอใต้ จนจบชั้นประถมศึกษาปี 4 นอกจากนี้ยังได้ศึกษาตำราพระเวทต่างๆ จากหลวงพ่อมุม ทั้งภาษาขอมและภาษาธรรมบาลีอีกด้วย กระทั่งอายุได้ 21 ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ และยังคงศึกษากับ ‘พระอาจารย์มุม’ อย่างต่อเนื่อง จนอายุได้ 24 ปี จึงลาสิกขาออกมาเพื่อช่วยเหลืองานทางบ้าน

ขณะที่เป็นฆราวาส เป็น ‘หมอธรรม’ ช่วยเหลือผู้คนในชุมชนจนเป็นที่เคารพนับถือ และเมื่อเว้นว่างจากการทำเกษตรกรรม ก็ชักชวนเพื่อนหมอธรรมด้วยกันเดินทางไปเขมร เพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพระตะบอง, เสียมราฐ และศรีโสภณ ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และพระอาจารย์จากทางเขมรมากมาย ได้ร่ำเรียนวิชามาไม่น้อย แต่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือและรักษาผู้คน

เมื่อหมดภาระทางบ้าน หลวงปู่แสนจึงได้กลับเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง โดยไปจำพรรษาที่บ้านกุดเสล่า อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และยังคงออกธุดงควัตรในแถบเทือกเขาพนมดงรักเป็นเนืองนิตย์ ท่านเป็นพระภิกษุที่สมถะ เรียบง่าย ไม่ยึดติด เป็นพระนักปฏิบัติที่ชาวบ้านกุดเสล่ารักและศรัทธามาก

ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านโพรง ได้ทำนุบำรุงวัดเฉกเช่นเดียวกับวัดอื่นๆ จนอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพ จึงนิมนต์ท่านกลับมาจำพรรษา ณ วัดหนองจิก

หลวงปู่ได้ละสังขารอย่างสงบเมื่อเวลา 22.24 น.ของคืนวันที่ 25 ก.ค. 62 ซึ่งลูกศิษย์และลูกหลานญาติพี่น้องต่างพากันร่ำไห้ด้วยความอาลัยหลวงปู่ พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาให้กับลูกศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไปมาโดยตลอด